วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

"มิว ลักษณ์นารา เปี้ยทา" ดาราวัยรุ่นหน้าน่าพึงพอใจพร้อมกับจอเงินข้อเรี่ยมเกรียนฟิคชั่น

เข้าใจชาตะเสด็จพร้อมด้วยละคร วนาลี พร้อมกับ รักนี้หัวใจมีครีบ นางเอกด้านเอม "มิว ลักษณ์นารา เปี้ยทา" เปลี่ยนไปทั้งเป็นที่รู้จักในสถานภาพนักแสดงดาราวัยรุ่นที่น่าเกาะตาชายตาอีกหนึ่งคน และผลงานรื่นเริงล่าสุดกับการมาสู่เล่นจอเงินเรื่องแรก "เกรียน ฟิคชั่น" ที่แตะเล่าเรียนทั้งร้องขอเพลงพร้อมกับเต้นเพิ่มเพิ่มเติม เพื่อความเจริญแสดงมอบเหมาะสมกับบท "พลอยดาว" ที่ต้องทั้งประณีต แน่จริง เป็นดาวของสถานที่เรียน นอกจากข้อคดีประณีต และข้อคดีทำได้ในการบ่งชี้แล้ว น้องมิวก็ยังมีความทำได้ด้านยิมนาสติกเคยมีดีกรีเป็นถึงนักกีฬาอันดับเขต ของเมืองสมุทรปราการ และทั้งเป็นลูกที่ดีช่วยมากเกินพ่อแม่โปรดดูแลคล้องผิดติดใจค่าใช้ปันออกของครอบครัว เอิ้นว่าเป็นอีกนักแสดงวัยรุ่นที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง...ไปดูภาพถ่ายน่ารักๆ ของน้องมิวกันเลยค่ะ









ประวัติ



มิว ลักษณ์นารา เปี้ยทา


ชื่อ สกุล : ลักษณ์นารา เปี้ยทา


ชื่อเล่น : มิว


ชาตะ : 16 สิงหาคม พ.ศ. 2538


ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษา : โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์


ความทำได้พิเศษ : นักกีฬายิมนาสติก ได้เป็นนักกีฬาเขต จังหวัดสมุทรปราการ



ละคร


เรื่องวนาลี รับบทเป็น วิชชุดา(วิช) แสดงคู่กับ ณัฐวุฒิ สกิดใจ ช่อง 3,รักนี้...หัวใจมีครีบ ช่อง 3


ภาพยนตร์


เกรียน ฟิคชั่น


ผลงานอื่นๆ


มิวสิควีดีโอ,โฆษณา,ถ่ายแบบ,เดินแบบ

วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556

แฟชั่นกลุ่มทรวงอเล็กซ์ข้าวของเครื่องใช้ดาราวัยรุ่นวัยแรกรุ่น เต้ย จรินทร์พร




เต้ย จรินทร์พร


วัยแรกรุ่นจ้อยอมยิ้มยังมีชีวิตอยู่โปร่ง เน็ตไอดอลปูนแรกๆแบบ  "เต้ย จรินทร์พร" พิศเต้ยตั้งแต่เข้ามาวงการที่ลุคส์ดาราวัยรุ่นใสๆ แบ๊ว ๆ มาริท่อนนี้เต้ยผ่านลุคส์สดวัยแรกรุ่นผมสั้น ทำให้เต้ยสนุกสนานกับการร้อยกรองรูปท่วมท้นขึ้น ถึงจะเป็นวัยแรกรุ่นตัวเล็กหุ่นดี แต่เต้ยเค้าบอกว่าไม่หลงใหลแต่งตัวโป๊ ชอบกางเกง กระโปรงทรงเอวสูง เพราะว่าใส่แล้วทำให้ดูตัวสูงขึ้น ภาคไอเทมที่เต้ยชอบก็จะสดหมวกและแหวน ไปดูแฟชั่นน่ารักๆ ของดาราวัยรุ่นอย่างเต้ยกันเลยค่ะ




วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2556

ดาราวัยรุ่นได้รับความนิยมกินเสียงพูดเป็นพิษเสียงพูดไหนมหาศาลมาก

บ่องตง,จุงเบย,โอป่ะเตง,คึบับ,เมพขิงๆ,ฝุดๆ ต้นแบบคำนิรุกติเล่นของวัยรุ่นพงศ์พันธุ์นี้คนแก่อาจจะมองว่าทำให้นิรุกติไทยวิบัติ แต่ก็ไม่ยอมรับไม่ได้ว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไป ถ้าจะหยิบมาพูดกันเล่นๆ ขำๆ ก็โอเค เพียงแต่เราต้องรู้จักใช้ และรู้จักคำภาษาไทยในคำที่ถูกต้องด้วย ภาษาแสลง เป็นประดุจคำที่คิดขึ้นมายอมยุคสมัย ทันทีที่หมดยุคช่วงเวลาหนึ่ง คำใหม่ก็จะเกิดรุ่งมา และคำเก่าก็จะหายไป จับกลุ่มถึงเหล่าดาราที่มักจะโพสต์คำแสลง หรือพูดคำแสลงต่างๆ จนเป็นคำติดหนี้ปาก จะมีคำไหนกันบ้างที่ต่อตานี้เหล่าดาราเค้าใช้


 


ดาร์ลิ่ง อารดา


คำที่หนูชอบต่อตานี้มันก็ได้รับความนิยมกันสักพักแล้วนะคะ แต่ชอบพูดกับเพื่อนอยู่เลย คือว่า "ฝุดๆ" เวลาพูดมันดูกวนๆดีค่ะ แต่ถ้าเวลาจะพูดกับผู้ใหญ่ก็ควรใช้คำให้พอดีสมมากกว่านี้ แล้วอีกอย่างกระแสพวกนี้ไม่ได้มาแรงด้วย อีกไม่นานชั่วระยะหนึ่งก็มีคำใหม่ๆมาอีก


 


เบลล่า ราณี


คำที่วัยรุ่นใช้กันตอนนี้เบลล่าก็รู้จักหลายคำนะคะ แต่ที่ชอบสุดคงเป็นคำว่า "จุงเบย" มันดูน่ารักแล้วก็อ้อนๆ เวลาผมใส่ท้ายประโยคที่ผมพูด แบบควรจะรักจุงเบย น่ากินจุงเบย ก็ชอบพูดกับเพื่อนๆแชตกันอะไรแบบนี้ค่ะ แต่คิดว่าชั่วระยะหนึ่งคงมีคำใหม่ๆมาฮิตกันอีกเรื่อยๆ


 


ปันปัน เต็มฟ้า


เวลามีอะไรใหม่ๆปันปันจะรู้ไปทางโซเชียลมีเดียค่ะ อย่างคำล่าสุดนี่คือ "บ่องตง" เห็นเพื่อนแท็กกันมา เราก็งงอยู่ตอนแรกๆ พอรู้ว่าหมายถึงบอกตรงๆ ก็คิดว่าคนเราช่างคิดสรรหาคำพูดมาใช้กันให้มันดูแปลกๆไป เพราะว่าปันปันแล้วน่าจะใช้คำแบบเดิมๆก็คุยกันรู้เรื่องอยู่แล้วนะ ไม่ต้องพิศดารอะไรมากมาย เพราะไม่นานก็เลิกฮิต


 


ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก


ตอนนี้ใบเฟิร์นติดคำว่า "บ่องตง" เพราะเห็นเพื่อนๆพี่ๆในหมวดถ่ายภูพูดกันตลอด เราก็ติดมา บางทีดำรงอยู่บ้านเผลอพูดมานะคนที่บ้านก็งงๆไม่เข้าใจ ซึ่งคำพวกนี้มันไม่น่าจะฮิตนานๆนะคะ ประดุจก่อนหน้านี้ล่ะ แค่อยากจะแนะนำว่าถึงเราจะใช้คำสิ่งไรก็ตามแต่ต้องรู้ว่าพูดกับใครพอดีสมหรือเปล่า คำแบบนี้พูดกับเพื่อนๆได้แต่ไม่ควรพูดกับผู้ใหญ่


 


ดาราวัยรุ่น,คู่รักดาราวัยรุ่น,">ศัพท์วัยรุ่น


 

วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2556

ดาราวัยรุ่น 'อเล็กซ์' ว้างเวิ้งหนีบได้ใบดำ ชลเนตรคลอส่งปล้องคดีบอกให้ทราบเต้ย




"อเล็กซ์" โล่งคีบได้ใบดำ ไม่ตรึงกำลัง อัสสุคลอโทรบอกมาตา ส่งหัวข้อบอก "เต้ย" แล้ว เผยโล่งตระเตรียมลุยการงานต่อเต็มที่


เพรียกได้ว่าโล่งเยี่ยงยกภูเขาออกจากอกเลยทีเดียว สำหรับพระเอกหนุ่ม "อเล็กซ์ เรนเดลล์" หลังจากตัดสินใจไม่ยื่นผ่อนผันเลือกเลือกทหารกองเกินเข้ามารับราชการ ประจำปี 2556 ที่โรงเรียนวัดบางนาใน เขตบางนา ซึ่งหนุ่มอเล็กซ์ก็จับได้ใบดำ ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร งานนี้หนุ่มอเล็กซ์ก็เปิดตีแผ่ความรู้สึกว่า


"ก็เป็นความช่ำชองครั้งหนึ่งในชีวิตที่สนับสนุนมาก ระทึกขวัญมากครับ มันเหมือนเป็นวันตัดสินชีวิตของเราในปีนี้เลย คือถ้าหัวมันจะใช่ก็ใช่ เราก็ห่วงการงานที่ยังค้างอยู่ เพราะว่าตอนนี้ก็มีภาพยนตร์ด้วย แล้วละครเรืองนึงก็ใกล้จะปิด ส่วนผัวตีตราก็ถ่ายไปได้ครึ่งนึงแล้ว ก็รู้สึกดีที่ไม่ได้ทำให้กองถ่ายเดือดร้อนครับ คือปีนี้เราก็มาแล้วผมก็อยากจะทำให้เสร็จๆ ไปเลย จะได้เริ่มต้นได้จริงจังสักที เพราะตั้งแต่ศึกษาเล่าเรียนจบก็มีแค่เรื่องทหารนี่แหละครับที่ยังติดๆ ค้างๆ อยู่ จริงๆ ที่ผมมาก็เตรียมใจไว้สถานภาพนึงแล้วเหมือนกัน"


เมื่อสืบสาวว่า คุณแม่ว่าร้ายอย่างไรบ้าง หนุ่มอเล็กซ์ก็ตอบว่า "แม่ก็บอกว่าก็ดีครับ จะได้ทุ่มเททำงานได้อย่างเต็มที่สักทีนึงเขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก บอกว่าเดี๋ยวกลับที่พักค่อยมาคุยกัน ส่วนเต้ยก็ยังไม่ได้บอกเลยครับแต่ส่งข้อข้อคดีไปแล้วว่าได้ดำ หลังจากนี้ไปก็ตระเตรียมตัวลุยงานได้เต็มที่ครับ"


ดาราวัยรุ่นไทย

วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556

วัยรุ่น ดาราวัยรุ่น คนอย่างกับจ้าา !! งับเทอมจบ ปฏิบัติไหนแยกเป็นผลดี




เมื่อคลุมเทอมมาถึงคำไต่ถามที่ตามมาคือ ทำอะไรดี? วันนี้ มีกิจกรรมดีๆมาเป็นตัวเลือกตั้งให้กับเพื่อนๆ 5 กิจกรรมเนื่องด้วยกัน





1.เตร็ดเตร่ชายหาด ถึงแก่อสัญกรรมร้อน เป็นหนึ่งกิจกรรมถึงแก่อสัญกรรมร้อนที่ต้องมีอยู่ในทุกคราวปิดเทอมของวัยรุ่นไทย ด้วยว่าในช่วงหน้าร้อนและลมฟ้าอากาศร้อนมากๆ แบบนี้ การไปเตร็ดเตร่ทะเลมีกิจกรรมหลายอย่างให้ได้ทำกัน เช่น ว่ายน้ำกินชายหาดใสๆ นอนฉาบแดดส่วนล่างหาด บานาน่าโบ๊ท เจ็ทสกี และดำน้ำ เป็นต้น 





2.ทำงานพาร์ทไทม์ หารายได้ และประสบการณ์ หากไม่ชอบย่างเท้าทาง การหางานพิเศษเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ปลูกสรรค์สำหรับวัยรุ่นไทยยุคใหม่ นอกจากจะมีรายได้พิเศษและลดพระราชภารกิจของครอบครัวแล้ว ยังเป็นการสร้างความชำนาญดีๆ และเป็นประโยชน์สำหรับกับทำงานในภาคหน้าของเพื่อนๆด้วยนะจะบอกให้






3.เล่นกีฬา สร้างอนามัย การ เล่นกีฬาเพื่อออกกำลังกายเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เสริมสร้างอนามัยที่ดีให้ กับเยาวชน ในช่วงปิดเทอมของทุกปี การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จะมีกิจกรรมเปิดโครงการสอน 12 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย ว่ายน้ำ, เทนนิส, ฟุตบอล, ฟุตซอล, บาสเกตบอล, เทควันโด, แบดมินตัน, เทเบิลเทนนิส, ยิมนาสติก, มวย (ไทย,สากล) และศิลปะป้องกันตัว (ยูโด) ในช่วงฤดูร้อนประจำเดือนเมษายน โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 29 มี.ค. 2556 





4.เล่นเพลง สร้างอารมณ์เย็นๆ ปิดเทอมแล้วมาผ่อนหายด้วยการเล่นเพลงกันดีกว่า นอกจากเพลงจะทำให้เราเพลิดเพลินมีความสุขแล้วแล้ว ไม่แน่ว่าการตั้งวง ร้อง รำ ทำเพลงของเพื่อนๆอาจจะไปเตะหูค่ายเพลงดัง กลายเป็นผู้แสดงสุดฮอตก็เป็นได้นะ





5.กิจกรรมช่วยเหลือเข้าผู้เข้าคน นับว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์มากๆ เลยล่ะ สมัยปัจจุบันมีโครงการมากมายที่เปิดรับรับอาสาสมัครเข้าไปช่วยเหลือสังคม อาทิ ช่วยเหลือสุวานจรจัด ปลูกป่าดูแลสิ่งแวดล้อม ออกค่ายขยายโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร นอกจากเพื่อนๆจะได้ช่วยเหลือเข้าผู้เข้าคนทำให้ประเทศไทยน่าอยู่ขึ้นแล้ว ยังได้บุญอีกด้วยนะ สาธุๆ




ดาราวัยรุ่น วัยรุ่น

แต่กระนั้นละพวกเรียนที่ใด วัยรุ่นต้องการตระหนักตัวไหม

แต่ละกลุ่ม...ศึกษาอะไร??? (ตอนที่2)



เลือกเรียนคณะในฝันอย่างชาญฉลาด





ศึกษารู้ข้อมูลของ 3 คณะในห้วงนึกของหลายๆ คนกันแล้ว ก็มาเรียนรู้ทาบด้วย อีก 3 คณะ ที่เชื่อฟังว่าฮอตฮิตไม่พ่ายแพ้คณะไหนๆ ไม่ว่าจะแป็น ทันตแพทย์ศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ และเภสัชศาสตร์...ไม่แย่เวลาไปยอมดูข้อมูลของ 3 คณะที่ว่ากันเลย!!!






คณะทันตแพทยศาสตร์



ทันตแพทยศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยการศึกษาเรื่องเขี้ยว องค์ในช่องปาก และอวัยวะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทำหน้าที่ในการทำลายขบเคี้ยวอาหาร กรุณาออกเสียงและส่งเสริมบุคลิกภาพอันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความสมบูรณ์ของ ชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจะมีความศักยในการตรวจตัดสิน วางแผน และบำบัดรักษาโรคในช่องปากและองค์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนบูรณะเนื่องด้วยฟื้นฟูสุขภาพ อีกทั้งมีความศักยในการป้องกันโรคเขี้ยวผุแก่ชุมชน เผยแพร่ความรู้ทางทันตสุขศึกษา และทำการวิจัยทางด้านทันตแพทยศาสตร์ คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา จะต้องเป็นผู้จบมัธยมศึกษาตอนปลายสายพิทยศาสตร์ และมีคุณค่าที่จะเข้ารับราชการได้ นอกจากนี้ควรเป็นผู้มีความสามารถปั้นพอสมควร



มาหาดูกันสิว่าแนวทางในการประกอบงานการเมื่อจบแบบฉบับสูตรมีอะไรกันบ้าง...ขึ้นชื่อว่าทันตแพทย์ ก็คงหนีไม่พ้นกับเรื่องของ "ฟัน" ผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต จะมีความรู้ความสามารถในทางทันตกรรม และสามารถประกอบอาชีพได้ ดังนี้



1.เป็นอาจารย์สอนและวิจัย เป็นทันตแพทย์ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย รัฐวิสาหกิจ สภากาชาดไทย ฯลฯ


2. ประกอบอาชีพสาขาทันตกรรมในคลินิกส่วนตัวและโรงพยาบาลเอกชน





มาต่อกันที่ "พยาบาลศาสตร์" เชื่อว่าน้องๆ หลายคนใฝ่ฝันที่จะใส่ชุดพยาบาลสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ ซึ่งจะว่าไป"พยาบาล" ก็เสมือน "นางฟ้า" ของคนป่วย จริงไหมคะ?? มาดูกันว่าถ้าอยากเป็นพยาบาลจะต้องเรียนอะไรบ้าง...










คณะพยาบาลศาสตร์



พยาบาลศาสตร์ เป็นการศึกษาที่เน้นตรากตรำในการให้บริการด้านสุขภาพสุขภาพอนามัยแก่ผู้ป่วยทางกายหรือเส้นทางจิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทุพพลภาพและผู้สูงอายุ การให้บริการด้านพยาบาล คำนึงถึงความต้องการของคนไข้ ตามรูปร่างของโรคที่เป็น ตรวจดูและบันทึกความเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงของคนไข้ รายงานให้คุณหมอรู้ถึงอาการผิดปกติที่เกี่ยวกับร่างตัว อารมณ์ และจิตใจ ช่วยฟื้นฟูสุขภาพ ช่วยคนไข้ให้ปรับตัวเข้ากับภาวะขัดข้องใด ๆ ที่อาจเกิดจากการเจ็บป่วย จัดให้คนไข้มีสิ่งแวดล้อมที่ถูกสุขอนามัย พิทักษ์และห้อคุมการเผยฟุ้งของโรคติดเชื้อ ยุยงคนไข้และประชาชนทั่วไปให้รู้จักรักษา และส่งเสริมสุขภาพ ร่วมธุระกับเจ้าหน้าที่ฝายการแพทย์ แลอนามัยแขนงอื่น ๆ ในด้านบริการคนไข้



ใครที่อยากเรียนพยาบาล จะต้องเป็นคนที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้...



1.มีความรู้พื้นฐานวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เป็นอย่างดี จบมัธยมศึกษาตอนปลายสายวิทยาศาสตร์


2.มีสุขภาพกายและจิตดี มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่รังเกียจผู้ป่วย มีเมตตากรุณา และมีความรักในเพื่อนมนุษย์


3.เสียสละทั้งด้านเวลาและตนเองให้แก่ผู้ป่วยทุกคน มีความอดทน อดกลั้น





ส่วนแนวทางในการประกอบกิจอาชีพของผู้จบหลักสูตรนี้ ก็คงต้องเป็น "ปรนนิบัติ" นั่นเอง ซึ่งจะรับราชการในหน่วยงานของรัฐ หรือทำงานในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและเอกชน มีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ รายได้ค่อนข้างดี แถมยังศักยศึกษาต่อระดับปริญญาโท และเอกสาขาพยาบาลศาสตร์ได้ทั้งในและต่างประชาชาติอีกด้วย!





อีก 1 คณะสำหรับตอนที่ 2 นี้ "เภสัชศาสตร์" ใครอยากเป็น "เภสัชกร" ก็ต้องมาศึกษาข้อมูลเบื้องรุกข์กันก่อนว่าต้องเรียนอย่างไรบ้าง ซึ่งจะรอช้าทำไม ตามไปดูกันเลย...








คณะเภสัชศาสตร์



เภสัชศาสตร์ คือ ศิลปะพร้อมด้วยวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการปรุงผสม ผลิต และจ่ายยา รวมถึงการเลือกสรรจัดเตรียมหายาสำเร็จรูป เวชภัณฑ์ต่าง ๆ ตลอดจนข้อมูลที่เกี่ยวขอ้งเพื่อให้บริการ และให้คำปรึกษาแนะนำที่สมควรสม ตรวจสอบทบทวนการใช้ยา พร้อมทั้งตามล่าดูแลการใช้ยาของผู้ป่วย โดยภาพรวมคือ ระบบความรู้ที่ก่อให้เกิดความสามารถที่จะให้บริการด้านสุขภาพด้วยความเข้าใจในเรื่องยา และผลที่เกิดจากยา เพื่อให้การบำบัดรักษาได้ผลดีที่สุด โดยรับผิดชอบร่วมกับบุคลากรสุขภาพอื่น ๆ ในอันที่จะทำให้ผู้ป่วยมีคุณลักษณะชีพที่ดีขึ้น


นอกจากนี้ ยังเกี่ยวข้องกับการค้นตะปบประดิษฐ์ ผลิตยาในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมและหมูต่อการนำมาใช้บำบัดรักษาโรคในผู้ป่วย ตลอดจนควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐานตามกำหนด โดยการศึกษาเน้นหนักการให้บริการการศึกษาพื้นฐานสำหรับวิชาชีพเภสัชกรรม ในแนวกว้าง และเลือกเรียนวิชาเฉพาะทางใน2 สาขา ดังนี้



1.เภสัชกรรมปฏิบัติและการบริหารเภสัชกิจ


ประกอบด้วยสาขาย่อย คือ เภสัชกรรมคลินิก การบริหารเภสัชกรรมในโรงพยาบาล สาธารณสุข และเภสัชธุรกิจ



2.เภสัชศาสตร์ และเทคโนโลยี


ประกอบด้วยสาขาย่อย คือ เภสัชผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและชีววัตถุ ผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอาง และการประกันควบคุมคุณภาพ





คนไหนอยากเรียนในหลักสูตรนี้ก็ต้องจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายสายวิทยาศาสตร์ ต้องไม่เป็นโรค หรือความพิการที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการปฏิบัติหน้าที่เภสัชกร





แล้วถ้าศึกษาจบหลักสูตรเภสัชศาสตร์แล้ว แนวทางในการประกอบกิจงานการต่อไปละเป็นอย่างไร...ซึ่งคนที่เรียนจบเภสัชฯ แล้วก็จะศักยทำงานในกลุ่มงานของรัฐและเอกชน เช่น เภสัชกรโรงพยาบาล ศูนย์อนามัย สถานีอนามัย เป็นเภสัชกรอุตสาหกรรม ในโรงพยาบาล หรือบริษัทจำหน่ายยาทั้งของรัฐและเอกชน แบ่งออกเป็นแผนกผลิต แผนกควบคุมมาตรฐาน และคณะวิจัย เภสัชกรชุมชน เป็นเจ้าของผู้จัดการหรือเภสัชกรประจำร้านขายยา เภสัชกรการตลาด ทำอาชีพแนะนำของซื้อของขายยา และศักยศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก ทั้งในและต่างประเทศ







ทีนี้ก็ถึงฤกษ์ที่วัยรุ่น จะสำรวจตัวเองกันแล้ว ว่าชอบอะไร อยากเรียนอะไร อยากเป็นอะไร แล้วก็เนรมิตแรงบันดาลใจใส่ให้เต็มเต็มเพื่อก้าวไปสู่ข้อความใฝ่ฝันนะคะ...เป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนค่ะ ^ ^




วัยรุ่น การศึกษา ดาราวัยรุ่น